สิว เป็นปัญหาโรคผิวหนัง เกิดจากการอุดตันของรูขุมขน การอักเสบเรื้อรังของรูขุมขน แต่ละคนจะมีลักษณะสิวแตกต่างกัน อาทิ สิวเสี้ยน สิวอุดตัน สิวหนอง เป็นต้น เมื่อเป็นแล้วทำให้เราขาดความมั่นใจ สร้างความรำคาญใจไม่น้อย คนไข้บางคนรักษาสิวมาร้อยแปดพันเก้าวิธีก็ไม่หายขาด ปัจจุบันเลยมีโปรแกรมรักษาสิวอย่างการฉายแสง LED ร่วมกับการกดสิว การฉีดสิว ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการรักษาสิวอย่างเร่งด่วนและเห็นผลชัดเจน ไม่ทำให้คนไข้เจ็บตัว ไม่เสียเวลาในรักษา
การฉายแสง LED
การฉายแสง LED เป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ใช้ความเข้มแสงมาใช้ในบำบัดผิวส่วนที่มีปัญหาเฉพาะจุด แต่ละครั้งจะใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที ซึ่งความเข้มแสงที่ใช้จะมี 4 สีด้วยกัน แต่ละสีจะคุณสมบัติการรักษาแตกต่างกัน ดังนี้
- แสงสีฟ้า ใช้รักษาสิวติดสารสเตียรอยด์ สิวอักเสบ สิวแพ้ต่างๆ
- แสงสีเขียว ใช้รักษาอาการแพ้ต่างๆ ช่วยลดการสร้างเม็ดสี ช่วยลดรอยดำ ช่วยปรับผิวให้กระจ่างใส
- แสงสีเหลือง ช่วยกระตุ้นต่อมน้ำเหลือง รักษารอยแดง ช่วยกระตุ้นต่อมน้ำเหลือง
- แสงสีแดง ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดเลือนริ้วรอย ลดการอักเสบจากการกดสิว
การกดสิว
การกดสิว เป็นหนึ่งในโปรแกรมรักษาสิวด้วยการฉายแสง LED ซึ่งแพทย์จะเป็นคนประเมินว่าคนไข้จะต้องกดสิวหรือไม่ หากกดสิวร่วมด้วยก็จะมีการทำทรีทเม้นท์ มาส์กหน้า ร่วมกับการรักษาด้วยผลิตภัณฑ์รักษาสิว ครีมกันแดด ยาทาแก้อักเสบ จากทางคลินิก
การฉีดสิว
การฉีดสิว เป็นอีกหนึ่งโปรแกรมรักษาสิวด้วยการฉายแสง LED เช่นเดียวกับการกดสิว ซึ่งแพทย์จะเป็นคนประเมินคนไข้ว่าควรทำหัตถการดังกล่าวหรือไม่ หากมีการฉีดสิวก็จะมีการทำทรีทเมนท์เช่นเดียวกับการกดสิว แต่จะแตกต่างกันที่การฉีดสิว จะไม่มีผลิตภัณฑ์รักษาสิวให้คนไข้
ระยะเวลาการรักษา
การรักษาด้วยโปรแกรมการฉายแสง LED แต่ละครั้งจะขึ้นอยู่กับหัตถการที่แพทย์ใช้กับคนไข้แต่ละคน เนื่องจากปัญหาผิวของแต่ละคนแตกต่างกัน จำนวนหัตถการที่เลือกใช้อาจแตกต่างกันด้วย โดยเฉลี่ยไม่เกิน 1-2 ชั่วโมง/เคส และพบว่าหลังการทำครั้งที่ 3 สิวเริ่มยุบ ผิวก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น
ใครรักษาสิวมาหลายวิธีแต่ไม่หายสักที และสนใจจะฉายแสง LED กดสิว ฉีดสิว ยังไงก็อย่าลืมเช็คประวัติของคลินิกที่เข้ารับบริการ และปรึกษาคุณหมอจากคลินิกที่มีมาตรฐานก่อนเข้ารับการรักษากันด้วยนะ ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยของเราเองค่ะ